ประเพณีแห่เทียนพรรษาอุบลราชธานี 2568

วัดไชยมงคล ได้จัดสร้างต้นเทียนพรรษา ประเภทแกะสลักขนาดใหญ่ เพื่อร่วมงานประเพณีแห่เทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2568 เพื่อสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงาม การจัดสร้างต้นเทียนพรรษาในแต่ละปีนั้น ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากนับล้านบาท ทั้งการจัดซื้อขี้ผึ้งใหม่มาผสมกับเทียนเดิม เพื่อให้มีความอ่อนนิ่ม แกะสลักได้ง่ายและอยู่ตัว (เทียนเดิมจะเปราะแข็ง แตกหักง่าย)

พระครูจิตวิสุทธิญาณคุณ เจ้าอาวาสวัดไชยมงคล ได้กล่าวว่า "พักนี้ไม่ได้ไปไหน กำลังควบคุมการทำงานเทียนพรรษาประเภทแกะสลัก ขนาดใหญ่ 1 ใน 3 ต้นของจังหวัดอุบลราชธานี ถือว่าเป็นต้นเทียนกำพร้า ไม่ได้รับการดูแลจากทุกภาคส่วนเลย ปีนี้ยิ่งหนัก ต้นเทียนต้นหนึ่งวัดลงทุนประมาณ 1 ล้านบาท ขณะนี้วัด ได้รับจัดสรรงบประมาณช่วยสนับสนุนการจัดสร้างต้นเทียนพรรษาให้กับทางวัดแล้ว จำนวน 261,000 บาท และสนับสนุนขบวนแห่ของ โรงเรียนพุทธเมตตาวิทยา อีกเป็นเงิน 50,000 บาท จาก เทศบาลนครอุบลราชธานี ยังขาดอีกเกือบ 800,000 บาท ช่างทำต้นเทียนต้องกินข้าวกับมาม่า ปลากระป๋องของวัดจนเกือบว่ายน้ำได้เหมือนปลาแล้ว

จากการพูดคุยกับต้นเทียนวัดอื่นๆ เขาโชคดีที่แต่ละต้นมีเงินทุนร่วมล้านกว่าบาท ก็คงต้องทนก้มหน้ารับสภาพ ไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปทางไหนเหมือนกัน ขนาดทางวัดเราทุ่มเทสร้างงานเพื่อบ้านตัวเอง ต้นเทียนขนาดใหญ่แต่ก่อนมีเข้าร่วมงานแห่เทียนพรรษาอุบลราชธานีกัน 8-10 ต้น ปัจจุบันก็เหลือแค่ 3 ต้น งานต้นเทียนถือเป็นงานหลักของทางจังหวัด แต่ผู้จัดงานไม่เคยมองเห็นความสำคัญของการสร้างต้นเทียนเลย ตั้งแต่ลงมือเริ่มทำต้นเทียนมากินเวลามาเกือบ สามสัปดาห์แล้ว ทุกอย่างเงียบ ไม่มีแม้คำถามว่า ขาดอะไร อยากให้ช่วยอะไร หากสถานะการณ์เป็นอย่างนี้ ต้นเทียนพรรษาวัดไชยมงคล ประเภทแกะสลักขนาดใหญ่ คงเหลือแค่ตำนาน คงต้องถอยออกมาเหมือนหลายๆ วัด เหนื่อยน่ะ"

พระครูจิตวิสุทธิญาณคุณ เจ้าอาวาสวัดไชยมงคล จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันบริจาค เพื่อสมทบทุนในการจัดสร้างต้นเทียนพรรษากับ วัดไชยมงคล ตามกำลังศรัทธา และจะได้นำรายชื่อผู้มีจิตศรัทธาแกะสลักลงในต้นเทียนจำลองของวัดไชยมงคล เพื่อใช้จุดในพิธีขณะทำวัตรสวดมนต์เช้า - เย็น ตลอดช่วงเข้าพรรษาในปีนี้ ผู้มีจิตศรัทธาร่วมสมทบทุนการจัดสร้างต้นเทียนพรรษากับวัดไชยมงคล ได้ที่ วัดไชยมงคล ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี โทรศัพท์หมายเลข 081 – 878 2460 โทรสาร 045-244742

สามารถโอนเข้าบัญชีวัดไชยมงคล เพื่องานทอฝ้ายเป็นสายบุญจุลกฐิน ธนาคากรุงไทย สาขาชยางกูร เลขบัญชี 287-0-31545-7 หรือบัญชีวัดไชยมงคล ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) สาขาอุบลราชธานี เลขบัญชี 020160954791 ตาม QR Code ที่ปรากฏในเมนูด้านข้างของเว็บไซต์นี้ (การบริจาคผ่าน QR Code ทั้งสองธนาคาร เป็น e-donate สามารถลดภาษีรายได้ประจำปีอัตโนมัติผ่านระบบของกรมสรรพากร) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์หมายเลข 081-8782460

ข่าวอัพเดทล่าสุด

หลังจากต้นเทียนกำพร้าของคุ้มวัดไชยมงคล เผยแผ่ออกไปทางเพจต่างๆ ของชาวอุบลราชธานี วันนี้มีข่าวดีที่ทำให้ทีมงานพอมีรอยยิ้มได้บ้าง เมื่อท่านผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ส่งทีมงานเข้ามาพบ และดูการทำงานของทีมงานช่างประเภทแกะสลักขนาดใหญ่ และขบวนแห่ของโรงเรียนพุทธเมตตาวิทยา ทีมงานของท่านผู้จัดการยืนยันว่า ปีนี้จะเข้ามาช่วยงานต้นเทียนประเภทแกะสลักขนาดใหญ่ พร้อมทั้งขบวนแห่อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมจัดทีมที่มีประสบการณ์เรื่องการจัดขบวนแห่เข้ามาเสริมทัพของวัดไชยมงคล ทีมงานช่างทราบข่าวต่างก็ดีใจจนมีพลังขับเคลื่อนงานจนลืมเหนื่อย รู้สึกเหมือนปลดภาระออกจากบ่า สมองจะได้นำไปคิดวางแผนงานอื่นต่อไป

และยังพูดคุยไปถึงปีต่อไป ทำอย่างไรไม่ให้ต้นเทียนวัดไชยมงคล ซึ่งเป็นต้นเทียนต้นเดียวในประเทศไทย ที่สามารถครองถ้วยพระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ในปีเดียวถึง 2 ถ้วย คงเหลือแค่ตำนาน วันนี้รู้สึกขอบพระคุณท่านผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เป็นอย่างสูงเหมือนท่านลงมาช่วยคนที่กำลังจมน้ำขึ้นฝั่งได้

วันนี้ ท่านนายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้กำชับลงมาอีกว่าหลวงพ่อดำเนินการทุกอย่างให้เต็มที่เลยไม่ต้องกังวลทั้งตันเทียนและขบวนแห่ ขอบพระคุณท่านมากเลยท่านเข้ามาช่วยในขณะเราไขว่คว้าอะไรไม่เจอเลย ทำให้เรามองถึงการเดินทางต่อไปในปีนี้สะดวกขึ้น ปีนี้ชาวอุบลคงได้ชมต้นเทียนต้นแบบซึ่งเป็นเอกลักษณ์ต้นเทียนหุ่นสมจริง แกะสลัก100% แต่ในวันข้างหน้าไม่แน่นอนว่าเราจะมีลมหายใจต่อไปได้อีกซักเท่าไหร่ นั่นคืออนาคต

ช่วงบ่ายท่านนายกเทศบาลนครอุบลฯ คงอยากให้ช่างเทียนลดการกินมาม่า ปลากระป๋อง จึงนำอาหารและเครื่องดื่มส่วนหนึ่งมามอบให้ น้ำใจเหล่านี้ชาวต้นเทียนวัดไชยมงคลจะไม่ขอลืม ขอบพระคุณทุกท่านที่เป็นห่วง

ในช่วงเดือนมิถุนายน 2568 นี้ตลอดเดือนไปจนถึงวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ท่านสามารถมาเยือนชุมชนคนทำต้นเทียนวัดไชยมงคล เพื่อการมีส่วนร่วมในการจัดทำต้นเทียนประเภทแกะสลักขนาดใหญ่ ชมขั้นตอนการขึ้นโครงหุ่นส่วนประกอบต้นเทียน การหลอมเทียน การติดตั้งและแกะสลักลวดลายต่างๆ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีแห่เทียนพรรษาอุบลราชธานี 2568 

ความคืบหน้าการทำต้นเทียนพรรษา 2568

ปี 2568 นี้ ทางวัดไชยมงคลจัดทำต้นเทียนพรรษาประเภทแกะสลักขนาดใหญ่ ในปีนี้ทางช่างเทียนได้เพิ่มความยาวของต้นเทียน จากเดิม 12 เมตร เป็น 16 เมตร สูง 2.5 เมตร นายเล็ก เวชภัณฑ์ ช่างทำต้นเทียนพรรษาวัดไชยมงคล กล่าวว่า "ขณะนี้ต้นเทียนทำไปได้ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว เรื่องราวของต้นเทียนปีนี้ใช้ชื่อว่า พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ส่วนด้านหลังเป็นอนันตนาคราช ถัดมาเป็นพระบรมนาถโพธิสัตวศรีอาริยเมตรไตรย ส่วนกลางเป็นกินรีและต้นเทียน ถัดมาเป็นพระพุทธเจ้าปางตรัสรู้ และหลังสุดเป็นพระพุทธรูปองค์ปฐม หรือ ปางจักรพรรดิ ต้นเทียนในปีนี้จัดทำอย่างยิ่งใหญ่มีความยาว 16 เมตร ขนาดของลำต้นเทียนสูง 2.5 เมตร ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 80 เซนติเมตร ความโดดเด่นของต้นเทียนวัดไชยมงคล ก็คือ หุ่น ใบหน้าหุ่น ซึ่งช่างจะไม่ได้หล่อหน้าของหุ่นแบบสำเร็จรูป แต่จะแกะสลักเป็นรูปหน้าด้วยมือ และหุ่นที่มีความสวยงามสมส่วน ส่วนลวดลายมีหลากหลายแล้วแต่ลายแบบไหนที่จะตกแต่งในหุ่นได้"

นายเล็ก เพิ่มเติมว่า ในส่วนของความคาดหวังปีนี้ มีต้นเทียนแกะสลักขนาดใหญ่ส่งเข้าประกวด 3 ต้น ตนเองก็ไม่ได้คาดหวังมาก อย่างน้อยน่าจะติด 1 ใน 3 แต่อย่างไรก็ตาม ตนเองมีความมุ่งมั่นที่จะทำต้นเทียนพรรษาเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และต้องการที่จะสืบทอด สืบสานประเพณีแห่เทียนพรรษาไว้ให้ลูกหลาน ได้ชื่นชมความวิจิตรงดงามของต้นเทียนพรรษาเมืองอุบลฯ ที่มีมาอย่างยาวนาน

ด้านพระครูจิตวิสุทธิญาณคุณ เจ้าอาวาสวัดไชยมงคล กล่าวว่า ในส่วนของการทำต้นเทียนของวัดไชยมงคล ช่างต้องทำอย่างรีบเร่ง เพราะว่าในช่วงแรกนั้นทางวัดไม่มีทุนทรัพย์ในการที่จะบริหารจัดการ ต่อมาทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ได้เข้ามาช่วยสนับสนุน และทางวัดได้เสริมช่างที่มีความชำนาญงาน มาช่วยในกระบวนการต่างๆ รับรองว่าจะเสร็จทันงานประเพณีแห่เทียนแน่นอน

ทางวัดไชยมงคลขอเชิญชวนมาร่วมให้กำลังใจช่างเทียน อยากให้ชาวจังหวัดอุบลราชธานี ตระหนักถึงคุณค่าของเทียนพรรษาเมืองอุบลราชธานี ร่วมกันอนุรักษ์ หวงแหน สืบสานประเพณีแห่เทียนไว้ให้คงอยู่ ช่างต้องการกำลังใจจากหน่วยงาน ชุมชน โรงเรียน มหาวิทยาลัยต่าง ได้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาชื่นชม ในกระบวนการทำงาน มาสร้างบรรยากาศของงานเทียนที่วิจิตรงดงามร่วมกัน นึกถึงคุณค่าของงานเทียนพรรษา จังหวัดอุบลราชธานีสืบต่อไป