ในวัยเด็ก (คนมีอายุรำพึง) เมื่อยามได้ยินเสียง "เปิบข้าว" เพลงนี้...
" เปิบข้าวทุกคราวคำ
สูจงจำเป็นอาจิณ
เหงื่อกูที่สูกิน
จึงก่อเกิดมาเป็นคน
ข้าวนี้นะมีรส
ให้ชนชิมทุกชั้นชน
เบื้องหลังสิทุกข์ทน
และขมขื่นจนเขียวคาว
จากแรงมาเป็นรวง
ระยะทางนั้นเหยียดยาว
จากรวงเป็นเม็ดพราว
ล้วนทุกข์ยากลำเข็ญเข็น
เหงื่อหยดสักกี่หยาด
ทุกหยดหยาดล้วนยากเข็ญ
ปูดโปนกี่เส้นเอ็น
จึงแปรรวงมาเป็นกิน
น้ำเหงื่อที่เรื่อแดง
และน้ำแรงอันหลั่งริน
สายเลือดกูทั้งสิ้น
ที่สูซดกำซาบฟัน...."
ย่อมคิดถึงความลำบากของชาวนา เพลงได้บ่งบอกถึงความยากลำบาก ความเหนื่อยล้า ความอ่อนแรง และไม่มีใครชนชั้นใดเห็นคุณค่า ทั้งที่ข้าวทุกเม็ดที่เรากินลงไปนั่นหมายถึง "ความเติบโต ของสติปัญญาและแรงกาย หลายร้อยปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน" ของชาวนาไทย ยังคงเหมือนเดิมต่อสู้กับธรรมชาติ ต่อสู้กับระบบทุนนิยม ไม่เคยมีครั้งไดที่สามารถกำหนดเส้นทางเดินของตัวเองได้ งานสำเร็จพร้อมแสงอาทิตย์อัศดงเช่นกัน
การเก็บเกี่ยวข้าวในนาของโรงเรียนพุทธเมตตาวิทยา วัดไชยมงคล 2567
วัดไขยมงคล โดย อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี พระครูจิตวิสุทธิญาณคุณ เจ้าอาวาส ได้นำพาเยาวชนลูกหลานที่เข้ามาบวชเรียนในวัดไชยมงคล และศึกษาเล่าเรียนวิชาสามัญใน โรงเรียนพุทธเมตตาวิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนในวัด สำหรับเด็กด้อยโอกาสทางสังคม เด็กที่อยู่ในครอบครัวรากหญ้า และอยู่ในสภาวะฐานะยากจน ได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาล ไปจนถึงระดับมัธยมศึกษา เรียนฟรี มีรถรับส่ง มีการเรียนการสอนในภาษาต่างประเภทเพิ่มเติม เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และยังได้เรียนทักษะวิชาชีพอื่นๆ เช่น ด้านการเกษตรกรรม
โรงเรียนมีพื้นที่ใน ศูนย์พุทธธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต (วัดไชยมงคล) อุทยานบึงบัวอุบลราชธานี ตำบลหนองขอน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นที่ตั้งของรูปเหมือนองค์หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต มีลักษณะยืน ความสูง 13 เมตร น้ำหนักประมาณ 30 ตัน โครงสร้างด้านในเป็นเหล็กถักเชื่อมขึ้นเป็นรูปด้วยปูนซีเมนต์ ด้านนอกหุ้มด้วยแผ่นทองเหลือง สร้างขึ้นในโอกาสที่ยูเนสโก ประกาศยกย่องให้พระอาจารย์มั่นภูริทัตโต เป็นบุคคลสำคัญของโลกสาขาสันติภาพ และเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 150 ปีชาตกาล ในวันที่ 20 มกราคม 2563 พื้นที่หนองน้ำปลูกดอกบัวแดงอุบล และพื้นที่สำหรับปลูกฝ้าย (เพื่อใช้ในงานบุญจุลกฐิน) และสำรับทำนา ส่วนหนึ่ง
เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยว วันหยุด หยุดงานการประจำ มุ่งเข้าสู่ศูนย์พุทธธรรมนำชีวิต เก็บเกี่ยวข้าวในนามาให้เด็ก งานเล็กๆ แต่มีคุณค่า หลวงพ่อนำชาวบ้านลแขกเกี่ยวข้าว ในแปลงนาที่ปลูกไว้เองนับสิบไร่ เพื่อนำไปเป็นข้าวปลาอาหารเลี้ยงเด็กนักเรียนโรงเรียนพุทธเมตตาวิทยาวัดไชยมงคล แม้แดดจะร้อนแรง เผาผิวกายแทบไหม้ หลวงพ่อท่านไม่เคยบ่น
หลังจากการเก็บเกี่ยวข้าวที่เป็นรวงในท้องทุ่ง มากองอยู่บนลาน ด้วยแรงบดแรงนวดกลายเป็นข้าวเปลือก และที่สุดจะกลายเป็นข้าวสาร เพื่อเลี้ยงลูกๆ นักเรียนโรงเรียนพุทธเมตตาวิทยา ต่อไป ดีใจด้วยน่ะลูกๆ ทุกคน